การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น
องค์การบริหารส่วนตำบล
องค์การบริหารส่วนตำบล ก็เป็นรูปแบบหนึ่งของการจัดระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น โดยจะประกอบด้วยสภาองค์การบริหารส่วนตำบล และคณะกรรมการองค์การบริหารส่วนตำบล[1]สภาองค์การบริหารส่วนตำบลประกอบด้วยสมาชิก 2 ประเภท คือ
1.สมาชิกโดยตำแหน่ง ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และแพทย์ประจำตำบล
2.สมาชิกซึ่งได้รับเลือกตั้งจากราษฎรแต่ละหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 2 คน
อำนาจหน้าที่ของสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
1.ให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาตำบล
2.พิจารณาและให้ความเห็นชอบร่างข้อบังคับตำบล ร่างข้อบังคับงบประมาณรายจ่ายประจำปีและร่างข้อบังคับงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม
3.ควบคุมการปฏิบัติงานของคณะกรรมการองค์การบริหารส่วนตำบล
4.บริหารกิจการขององค์การบริหารส่วนตำบล
5.จัดทำแผนพัฒนาตำบล และงบประมาณรายจ่ายประจำปี
6.รายงานผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายเงิน
7.ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆตามที่ราชการได้มอบหมาย
เทศบาล
เทศบาลเป็นรูปแบบหนึ่งของการจัดระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น การจัดระเบียบบริหารราชการนั้นเป็นไปตามพ.ร.บ.เทศบาลพ.ศ.2496[2] ดังต่อไปนี้1.การจัดตั้งเทศบาล
เมื่อท้องถิ่นใดมีสภาพอันสมควรยกฐานะเป็นเทศบาล ให้จัดตั้งท้องถิ่นนั้นๆเป็นเทศบาล โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และเป็นนิติบุคคล[3]
2.ประเภทของเทศบาลมีอยู่ 3 ประเภท
2.1 เทศบาลตำบลตามพ.ร.บ.เทศบาล มิได้กำหนดหลักเกณฑ์การจัดตั้งไว้แต่ให้อยู่ในดุลพินิจของรัฐบาล
2.2 เทศบาลเมืองมีอยู่ 2 ชนิดคือ
ก. ท้องถิ่นอันเป็นศาลากลางจังหวัดทุกแห่ง
ข. ท้องถิ่นอื่นนอกจากข้อก. ที่มีราษฎรตั้งแต่10,000คนขึ้นไป ความหนาแน่น 3,000คน ต่อ 1 ตารางกิโลเมตร และมีรายได้พอควรแก่การปฏิบัติหน้าที่
2.3 เทศบาลนคร เป็นท้องถิ่นที่มีราษฎรตั้งแต่ 50,000คนขึ้นไป ความหนาแน่น 3,000คน ต่อ 1 ตารางกิโลเมตร และมีรายได้พอควรแก่การปฏิบัติหน้าที่
3.โครงสร้างของเทศบาล ปัจจุบันสามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ
1.การบริหารรูปแบบของคณะเทศมนตรี ประกอบด้วยสภาเทศบาลและคณะเทศมนตรีซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้กันในอดีต
2.การบริหารเทศบาลรูปแบบนายกเทศมนตรีประกอบด้วยสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ที่แก้ไขเพิ่มเติมในปีพ.ศ.2543
สภาเทศบาล ประกอบด้วยสมาชิกที่ได้รับการเลือกจากราษฎร โดยดำรงตำแหน่งคราวละ4ปี
1.สภาเทศบาลตำบลประกอบด้วยสมาชิก 12 คน
2.สภาเทศบาลเมืองประกอบด้วยสมาชิก 18 คน
3.สภาเทศบาลนครประกอบด้วยสมาชิก 24 คน
คณะเทศมนตรี ในกรณีที่ประชาชนในเขตเทศบาลออกเสียงประชามติให้การบริหารเป็นรูปแบบคณะ เทศมนตรี ให้คณะเทศมนตรีประกอบด้วยนายกเทศมนตรีและเทศมนตรี[4]ดังนี้
1.เทศบาลตำบลมีเทศมนตรีไม่เกิน 2 คน
2.เทศบาลเมืองมีเทศมนตรีไม่เกิน 3 คน
3.เทศบาลนครมีเทศมนตรีไม่เกิน 4 คน
นายกเทศมนตรี ในกรณีที่ประชาชนในเขตเทศบาลออกเสียงประชามติให้การบริหารเป็นรูปแบบนายก เทศมนตรี ให้เทศบาลนั้นมีนายกเทศมนตรีคนหนึ่งซึ่งเลือกตั้งโดยราษฎรผู้มีสิทธิเลือก ตั้งในเขตเทศบาลโดยวิธีออกคะแนนเสียงโดยตรงและลับ นายกเทศมนตรีมีวาระดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี และไม่สามารถดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 วาระได้[5]
นายกเทศมนตรีอาจแต่งตั้งรองนายกเทศมนตรีซึ่งมิใช่สมาชิกสภาเทศบาลเพื่อช่วยเหลือในการบริหารราชการได้ในจำนวนดังนี้
1.เทศบาลตำบลให้มีรองนายกเทศมนตรีได้ไม่เกิน 2 คน
2.เทศบาลเมืองให้มีรองนายกเทศมนตรีได้ไม่เกิน 3 คน
3.เทศบาลนครให้มีรองนายกเทศมนตรีได้ไม่เกิน 4 คน
4.สหการ
ตามพ.ร.บ.เทศบาลได้กำหนดหลักเกณฑ์ว่าถ้ามีกิจการอยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของ เทศบาลตั้งแต่ 2 แห่งขึ้นไป จะร่วมกันจัดตั้งเป็นสหการก็ได้
5.การคลังและทรัพย์สินของเทศบาล
เทศบาลมีงบประมาณและทรัพย์สินเป็นของตนเองแยกต่างหากจากงบประมาณแผ่นดิน ส่วนรายได้ของเทศบาลนั้นอาจได้จากภาษี ค่าธรรมเนียม ฯลฯ
6.การควบคุมเทศบาลมี 2 วิธีคือ
1.การควบคุมองค์การและเจ้าหน้าที่ของเทศบาล
2.การควบคุมกิจการของเทศบาล
[1] ประยูร กาญจนดุล, คำบรรยายกฎหมายปกครอง, พิมพ์ครั้งที่ 4, (กรุงเทพฯ : บริษัท สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2538), หน้า 370.
[2] ดร.ชาญชัย แสวงศักดิ์, คำอธิบายกฎหมายปกครอง, พิมพ์ครั้งที่ 16, (กรุงเทพฯ : บริษัท สำนักพิมพ์วิญญูชน จำกัด, 2553), หน้า 161.
[2] ดร.ชาญชัย แสวงศักดิ์, คำอธิบายกฎหมายปกครอง, พิมพ์ครั้งที่ 16, (กรุงเทพฯ : บริษัท สำนักพิมพ์วิญญูชน จำกัด, 2553), หน้า 161.
[3] ดร.ชาญชัย แสวงศักดิ์, คำอธิบายกฎหมายปกครอง, พิมพ์ครั้งที่ 16, (กรุงเทพฯ : บริษัท สำนักพิมพ์วิญญูชน จำกัด, 2553), หน้า 161.
[4] ดร.วรพจน์ วิศรุตพิชญ์, หลักการพื้นฐานของกฎหมายปกครอง, (กรุงเทพฯ : บริษัท ธรรมสาร จำกัด, 2538), หน้า 110.
[5] ดร.วรพจน์ วิศรุตพิชญ์, หลักการพื้นฐานของกฎหมายปกครอง, (กรุงเทพฯ : บริษัท ธรรมสาร จำกัด, 2538), หน้า 111.
บรรณานุกรม
ชาญชัย แสวงศักดิ์,ดร. คำอธิบายกฎหมายปกครอง. พิมพ์ครั้งที่16. กรุงเทพฯ : วิญญูชน, 2553.
วรพจน์ วิศรุตพิชญ์,ดร. หลักการพื้นฐานของกฎหมายปกครอง. กรุงเทพฯ : ธรรมสาร, 2538.
ประยูร กาญจนดุล. คำบรรยายกฎหมายปกครอง. พิมพ์ครั้งที่4. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2538.
ประยูร กาญจนดุล. คำบรรยายกฎหมายปกครอง. พิมพ์ครั้งที่4. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2538.
กมลชัย รัตนสกาววงศ์,รศ. กฎหมายปกครอง. พิมพ์ครั้งที่7. กรุงเทพฯ : วิญญูชน, 2553.
กฎหมายปกครอง. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.lawsiam.com/?name=webboard&file=read&id=1070. (วันที่ค้นข้อมูล : 30 กรกฎาคม 2554).